ครีมลดริ้วรอย กุญแจสู่ผิวอ่อนเยาว์ด้วยการกระตุ้นคอลลาเจน

ครีมลดริ้วรอย

หัวใจสำคัญของการรักษาความอ่อนเยาว์ของผิวให้ยืนยาว คือ "คอลลาเจน" ซึ่งเป็นโปรตีนมหัศจรรย์ที่เป็นเสาหลักสำคัญของโครงสร้างผิว เมื่อเราอายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจัยภายนอกที่มาเร่งกระบวนการทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ความกระชับ และนำไปสู่การเกิดริ้วรอยในที่สุด ผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมไปถึงครีมลดริ้วรอยจึงเป็น "กุญแจสำคัญ" ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในผิวจากภายในสู่ภายนอก บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจกลไกการเกิดริ้วรอยและบทบาทของคอลลาเจน ไปจนถึงการเจาะลึกส่วนผสมอันทรงประสิทธิภาพที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และวิธีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เพื่อปลดล็อกผิวให้อ่อนเยาว์และแข็งแรงอีกครั้ง

Table of Contents



การเปลี่ยนแปลงของผิวตามวัย ทั้งจากภายในและภายนอก


เมื่อเราก้าวเข้าสู่ช่วงวัยที่แตกต่างกัน ผิวของเราก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามลำดับ ซึ่งนำไปสู่การเกิด "ริ้วรอย" ในที่สุด โดยผิวของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยแบ่งออกเป็นสองปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลกระทบ

กระบวนการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ (Intrinsic Aging):

การเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพที่ถูกกำหนดโดยพันธุกรรมและฮอร์โมน ไม่สามารถควบคุมได้โดยตรง เมื่ออายุมากขึ้น ได้แก่

  • การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง จุดเริ่มต้นสำคัญ คอลลาเจนที่ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างให้ความแข็งแรงและกระชับ และอีลาสตินที่ให้ความยืดหยุ่น จะถูกผลิตน้อยลงและเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงอายุ 20 กว่าๆ
  • การผลัดเซลล์ผิวช้าลง วงจรการผลัดเซลล์ผิวที่เคยสมบูรณ์จะช้าลง ทำให้เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วสะสมอยู่บนผิว ผิวจึงดูหมองคล้ำ หยาบกร้าน และไม่สดใส
  • การลดลงของไขมันใต้ผิวหนังและมวลกระดูก เมื่อไขมันใต้ผิวหนังและมวลกระดูกลดลง ใบหน้าจะดูซูบตอบ ขาดความอิ่มเอิบ ทำให้ร่องลึกและริ้วรอยดูชัดเจนขึ้น
  • ความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้นลดลง ผิวผลิตสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติน้อยลง ทำให้ผิวแห้งกร้าน แตกง่าย และริ้วรอยปรากฏชัดเจนขึ้น


ปัจจัยภายนอกที่เร่งให้เกิดริ้วรอย (Extrinsic Aging)

คือปัจจัยที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน และเป็นตัวเร่งให้ผิวแก่ก่อนวัยอันควร

  • แสงแดด (UV Radiation) ถือเป็นตัวการสำคัญที่สุด แสงอัลตราไวโอเลตทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินโดยตรง ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และผิวหยาบกร้าน
  • มลภาวะและอนุมูลอิสระ ควันพิษ ฝุ่นละออง PM2.5 และสารเคมีต่างๆ ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ที่ทำลายเซลล์ผิว โปรตีน และดีเอ็นเอ ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต การสูบบุหรี่ ขาดการพักผ่อน ความเครียด และการแสดงสีหน้าซ้ำๆ ล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวและเร่งให้เกิดริ้วรอย


กระบวนการเกิดริ้วรอย


กลไกการเกิดริ้วรอย ทำไมผิวจึงไม่เรียบเนียนเหมือนเคย ?

เมื่อผิวมีการเปลี่ยนแปลงทั้งจากภายในและภายนอกดังกล่าวข้างต้น ก็จะนำไปสู่กลไกที่ทำให้เกิดริ้วรอยดังนี้

  • โครงสร้างผิวที่อ่อนแอลง การลดลงและเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้โครงสร้าง "ตาข่าย" ที่ค้ำจุนผิวหย่อนคล้อยลง ไม่สามารถพยุงผิวให้เต่งตึงได้เหมือนเดิม
  • การสูญเสียความยืดหยุ่น เมื่ออีลาสตินลดลง ผิวจะไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ดีหลังจากมีการยืดหรือหดตัว ทำให้เกิดเป็นรอยพับ รอยย่นถาวร
  • ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวที่แห้งกร้านและขาดน้ำจะทำให้ริ้วรอยเล็กๆ ดูชัดเจนและลึกขึ้น
  • เซลล์ผิวที่ถูกทำลาย อนุมูลอิสระจากปัจจัยภายนอกเข้าโจมตีเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  • การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อซ้ำๆ การแสดงสีหน้าซ้ำๆ เป็นเวลานาน ทำให้เกิดร่องลึกตามแนวกล้ามเนื้อ ซึ่งจะยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อโครงสร้างผิวอ่อนแอลง


เจาะลึกส่วนผสมทรงประสิทธิภาพกับการเลือกใช้ครีมลดริ้วรอย

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงครีมลดริ้วรอยจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ และทำให้ผิวกลับมาสุขภาพดีได้ ส่วนผสมที่อยู่ในครีมช่วยลดริ้วรอยไม่ใช่แค่สารบำรุงผิวทั่วไป แต่คือวิทยาการที่ถูกคิดค้นมาเพื่อเข้าไปจัดการกับต้นเหตุของการเกิดริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ การปกป้องคอลลาเจนเดิมจากการถูกทำลาย หรือการฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่เสียหาย

กุญแจสำคัญสู่ผิวอ่อนเยาว์ Co-Bonding Technology จาก Vichy

Vichy เวชสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีแพทย์ผิวหนังกว่า 70,000 คนทั่วโลกมั่นใจแนะนำให้ใช้¹ Vichy ได้ทุ่มเทวิจัยมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี พร้อมตีพิมพ์บทความวิชาการถึง 25 บทความ และทดสอบโมเลกุลกว่า 8,900 ชนิด เพื่อสร้างสรรค์ครีมลดริ้วรอยที่ไม่เหมือนใคร จนได้รังสรรค์ เทคโนโลยี "Co-Bonding Technology" ของ Vichy ที่มีอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Liftactiv Collagen Specialist 16 ที่ช่วย Boost & Bond ผิวที่ได้รับการสูญเสียจาก Collagen ริ้วรอยแห่งวัย อาจจะเกิดจากผิวที่ผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากปัจจัยทำร้ายผิวทั้งภายในและภายนอก

Co-Bonding Technology ผสานส่วนผสมอันทรงประสิทธิภาพทั้ง 3 ชนิดเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ Matrixyl-3000, Maitake และ Rhamnose เพื่อมุ่งเป้าไปที่การดูแลเครือข่ายคอลลาเจนในผิวหนังอย่างครบวงจร

Liftactiv Collagen Specialist 16


Liftactiv Collagen Specialist 16 Day Cream บูสต์ผิวสว่างใสรับวันใหม่

สำหรับผลิตภัณฑ์ Liftactiv Collagen Specialist 16 Day Cream เป็นเดย์ครีมที่ออกแบบมาเพื่อปลดล็อคปัญหาแห่งวัยแห่งวัย 16 ประการ และยังมีวิตามินซีช่วยบูสต์แอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยผิวไม่ให้ถูกทำลายจากปัจจัยภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ แสงแดด โดยมีผลลัพธ์หลังจากใช้พบว่า

  • 87% ของผู้ใช้จริง รู้สึกผิวชุ่มชื่นขึ้นหลังใช้ทันที² และชุ่มชื่นยาวนานถึง 48 ชั่วโมง³
  • 80% ของผู้ใช้จริง รู้สึกผิวมีความสว่าง กระจ่างใสขึ้นทันที3


Liftactiv Collagen Specialist 16 Night Cream เติมเต็มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวตลอดคืน

Liftactiv Collagen Specialist 16 Night Cream ผสานไฮยาลูรอน ช่วยให้ผิวดูกระชับนุ่มเด้ง ดูฉ่ำน้ำรับเช้าวันใหม่ ผลลัพธ์หลังจากใช้พบว่า

  • 91% ของผู้ใช้จริง รู้สึกผิวชุ่มชื้นขึ้น หลังตื่นนอนในการใช้ครั้งแรก⁴
  • 80% ของผู้ใช้จริง รู้สึกผิวได้รับการฟื้นฟูหลังตื่นนอนในการใช้ครั้งแรก⁴
  • 79% ของผู้ใช้จริง รู้สึกผิวเรียบเนียนขึ้นหลังตื่นนอนในการใช้ครั้งแรก⁴


นอกจากที่มีส่วนผสมอันทรงประสิทธิภาพแล้ว ผลิตภัณฑ์ครีมลดริ้วรอยนี้ยังเป็น hypoallergenic ผ่านการทดสอบสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว

1. ผลสำรวจโดย AplusA และผู้ทำการสำรวจร่วมโดยอ้างอิงจากตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ เวชสาอาง ระหว่าง มกราคม 2023 ถึง กรกฎาคม 2023 ซึ่งเป็นผลสํารวจที่มีแพทย์ผิวหนัง ทั้งหมด 30 ประเทศเข้าร่วม โดยสามารถอ้างอิงถึงมากกว่า 80% ของ GDA ทั่วโลก

2. ผลการทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัคร 90 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ โดยสถาบันวิจัย SGS North America, Inc ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อตุลาคม 2024

3. ผลการทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัคร 50 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ โดยสถาบันวิจัย SGS North America, Inc ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อตุลาคม 2024

4. ผลการทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัคร 75 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ โดยสถาบันวิจัย SGS North America, Inc ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อตุลาคม 2024