Collagen นั้นสำคัญไฉน? ดูแลผิวแบบ Holistic Beauty เพื่อผิวเฟิร์มกระชับจากภายใน

ในยุคที่การดูแลผิวพรรณเป็นมากกว่าแค่การบำรุงจากภายนอก หลายคนหันมาให้ความสำคัญกับ “ผิวสวยจากภายใน” มากขึ้น และเมื่อกล่าวถึงองค์ประกอบที่สำคัญต่อความอ่อนเยาว์และเต่งตึงของผิว สิ่งแรกที่มักนึกถึงก็คือ “Collagen” โปรตีนมหัศจรรย์นี้เปรียบเสมือนโครงสร้างหลักที่คอยค้ำจุนให้ผิวของเราแข็งแรง ยืดหยุ่น และกระชับ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายก็มีแนวโน้มลดลง ทำให้เกิดสัญญาณแห่งวัยอย่างริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงความสำคัญของคอลลาเจนในผิวหนัง พร้อมเปิดประตูสู่แนวคิด Holistic Beauty หรือการดูแลผิวแบบองค์รวม ที่ไม่ได้เน้นแค่การปรนนิบัติจากภายนอก แต่เป็นการบำรุงสุขภาพผิวอย่างแท้จริงจากภายในสู่ภายนอก

Table of Contents

• ความสำคัญของคอลลาเจนแต่ละกลุ่มในผิวหนัง
• การดูแลผิวแบบ Holistic Beauty
• ดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอกด้วย Vichy Collagen Specialist 16

ความสำคัญของคอลลาเจนแต่ละกลุ่มในผิวหนัง

เมื่อพูดถึง "Collagen" เรามักนึกถึงโปรตีนที่ทำให้ผิวเต่งตึงและอ่อนเยาว์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คอลลาเจนไม่ได้มีแค่ชนิดเดียว! ในร่างกายมนุษย์และโดยเฉพาะในผิวหนังนั้น มีคอลลาเจนหลากหลายชนิดที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ และแต่ละชนิดก็มีบทบาทเฉพาะตัวที่สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เราสามารถแบ่งคอลลาเจนในผิวหนังออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้ถึง 4 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มก็เปรียบเสมือนฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ผิวของเราแข็งแรง ยืดหยุ่น และคงความอ่อนเยาว์ได้อย่างสมบูรณ์ มาดูความสำคัญของคอลลาเจนในแต่ละกลุ่มดังนี้

1. Junctional Collagens (คอลลาเจนยึดเกาะ) "สมอเรือ" แห่งผิวพรรณ
   การเชื่อมต่อที่แข็งแรงและมั่นคงเป็นหัวใจสำคัญของผิวสุขภาพดี หากรอยต่อระหว่างชั้นผิวหนังกำพร้าและหนังแท้ (DEJ) ไม่แข็งแรงเพียงพอ อาจนำไปสู่ปัญหาผิวที่เปราะบาง ผิวบาง ผิวแพ้ง่าย หรือแม้แต่การเกิดรอยโรคและตุ่มน้ำได้ง่ายขึ้น การมี Junctional Collagens ที่สมบูรณ์จึงเป็นรากฐานของผิวที่ทนทานต่อแรงกระทำจากภายนอก
2. Pillar Collagens (คอลลาเจนโครงสร้าง) "เสาหลัก" แห่งความแข็งแรง
   เป็นองค์ประกอบหลักของคอลลาเจนทั้งหมดในชั้นหนังแท้ โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 80-90% คอลลาเจนกลุ่มนี้มีอิทธิพลโดยตรงต่อความอ่อนเยาว์และสุขภาพผิว การลดลงของคอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 เมื่ออายุมากขึ้น หรือจากปัจจัยทำลายภายนอก เช่น แสงแดดและมลภาวะ คือสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยลึก ความหย่อนคล้อย ผิวขาดความกระชับ และการสูญเสียความยืดหยุ่นที่เราสังเกตเห็นได้ชัดเจน
3. Initiator Collagens (คอลลาเจนตั้งต้น/ควบคุม) "ผู้ควบคุม" แห่งเส้นใยคอลลาเจน
   มีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมคุณภาพของเส้นใยคอลลาเจนอื่น ๆ เปรียบเสมือน "ผู้ควบคุม" ที่คอยกำหนดขนาด รูปแบบ และการจัดเรียงตัวของเส้นใยคอลลาเจนชนิดอื่น ๆ การทำงานของ Initiator Collagens มีอิทธิพลอย่างมากต่อความแข็งแรง ความยืดหยุ่น หรือความสามารถในการทนต่อแรงกดทับ หากกลุ่มนี้ทำงานไม่สมบูรณ์ แม้จะมีคอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 อยู่มาก แต่เส้นใยเหล่านั้นอาจไม่ได้มีคุณภาพหรือการจัดเรียงตัวที่ดีพอ ทำให้ผิวไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
4. Bonding Collagens (คอลลาเจนเชื่อมประสาน) "ตาข่ายใยแมงมุม" แห่งผิวหนัง
   เป็น "ตัวเชื่อม" หรือ "กาว" ที่ยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลคอลลาเจนต่าง ๆ รวมถึงส่วนประกอบอื่น ๆ เสมือนใยแมงมุมที่ถักทอเชื่อมโยงทุกส่วนเข้าไว้ด้วยกัน
   เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โครงข่ายคอลลาเจนทั้งหมดในผิวหนังเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์แบบ มีความเป็นระเบียบ และทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น หากขาดการเชื่อมประสานที่ดีนี้ โครงสร้างคอลลาเจนโดยรวมก็อาจไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ทำให้ผิวขาดความทนทาน และอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์ผิวและการลำเลียงสารอาหารต่าง ๆ

จากที่เราได้เจาะลึกถึงบทบาทและความสำคัญที่แตกต่างกันของคอลลาเจนแต่ละกลุ่มจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคอลลาเจนทั้ง 16 ชนิดหรือ 4 กลุ่มที่ทำงานเป็นระบบในผิวหนังของเรานั้น ล้วนมีความสำคัญและขาดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไปไม่ได้เลย เพราะต่างก็ทำหน้าที่เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน แต่ทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้องเพื่อสร้างผิวที่แข็งแรง กระชับ และอ่อนเยาว์ ดังนั้น เพื่อให้ผิวของคุณคงความงามและสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกอย่างยั่งยืน การดูแลผิวจึงต้องเป็นไปในลักษณะองค์รวม ที่ส่งเสริมและปกป้องการทำงานของคอลลาเจนทุกกลุ่มอย่างรอบด้าน

การดูแลผิวแบบ Holistic Beauty

เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าคอลลาเจนแต่ละกลุ่มในผิวหนังนั้นมีความสำคัญและทำหน้าที่ประสานกันอย่างซับซ้อน การดูแลผิวให้อ่อนเยาว์และสุขภาพดีจึงไม่ใช่แค่การพึ่งพาสกินแคร์จากภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ต้องครอบคลุมไปถึงการบำรุงจากภายใน

Holistic Beauty หรือ "ความงามแบบองค์รวม" เป็นแนวคิดที่มองว่าความสวยงามไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากสุขภาพที่ดี ความสมดุล และความกลมกลืนกันของทุกมิติในชีวิต ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์

ร่างกาย (Body)

การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วน การดื่มน้ำให้เพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ และการดีท็อกซ์ร่างกายเพื่อกำจัดของเสีย

จิตใจและอารมณ์ (Mind & Emotion)

การจัดการความเครียด การฝึกสติ การทำสมาธิ โยคะ หรือกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ เพราะความเครียดและอารมณ์ด้านลบสามารถส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนและกระบวนการทางชีวเคมีในร่างกาย ซึ่งสะท้อนออกมาทางผิวพรรณได้

การดูแลแบบ Holistic Beauty จึงเป็นการลงทุนในสุขภาพโดยรวม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการสร้าง การปกป้อง และการทำงานของคอลลาเจนทุกกลุ่มในผิวหนัง หากทำควบคู่ไปกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในทุก ๆ กลุ่ม รวมไปถึงฟื้นฟูและป้องกัน ก็จะส่งผลทำให้ผิวคงความอ่อนเยาว์และสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน

ดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอกด้วย Vichy Collagen Specialist 16 Bonding Serum

Vichy เวชสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีแพทย์ผิวหนังกว่า 70,000 คนทั่วโลกมั่นใจแนะนำให้ใช้¹ Vichyได้ทุ่มเทวิจัยมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี พร้อมตีพิมพ์บทความวิชาการถึง 25 บทความ และทดสอบโมเลกุลกว่า 8,900 ชนิด จนได้รังสรรค์

Vichy Liftactiv Collagen Specialist 16 Bonding Serum เป็นเซรั่มที่ออกแบบมาเพื่อปลดล๊อคปัญหาแห่งวัยแห่งวัย 16 ประการ โดยใช้เทคโนโลยี "Co-Bonding Technology" ของ Vichy ที่ช่วย Boost & Bond ผิวที่ได้รับการสูญเสียจาก Collagen ริ้วรอยแห่งวัย อาจจะเกิดจากผิวที่ผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากปัจจัยทำร้ายผิวทั้งภายในและภายนอก (Exposome) อย่างเช่นความเครียด มลภาวะ และอายุที่มากขึ้น

Vichy Liftactiv Collagen Specialist 16 Bonding Serum ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ริ้วรอยดูลดเลือนและรู้สึกตึงกระชับชึ้นใน 2 สัปดาห์²❜³ และยังช่วยปลดล็อคปัญหาแห่งวัย ฟื้นฟูผิวได้ถึง 16 ประการ และยังพบว่า 86% ของผู้ใช้ริ้วรอยดูลดเลือนลง4 และ 71% ของผู้ใช้ผิวดูเด้งอิ่มฟูมากขึ้น⁴

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Liftactiv Collagen Specialist 16 ยังมีเดย์ครีม ไนท์ครีม และผลิตภัณฑ์รอบดวงตา เพื่อนำมาใช้ควบคู่กันให้ครบ เพื่อเป็นการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก ให้ดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี

1. ผลสำรวจโดย AplusA และผู้ทำการสำรวจร่วมโดยอ้างอิงจากตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ เวชสาอาง ระหว่าง มกราคม 2023 ถึง กรกฎาคม 2023 ซึ่งเป็นผลสํารวจที่มีแพทย์ผิวหนัง ทั้งหมด 30 ประเทศเข้าร่วม โดยสามารถอ้างอิงถึงมากกว่า 80% ของ GDA ทั่วโลก
2. ผลการทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัคร 52 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ โดยสถาบันวิจัย SGS North America, Inc ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อตุลาคม 2024
3. ผลการทดสอบความพึงพอใจในอาสาสมัคร 52 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ โดยสถาบันวิจัย SGS North America, Inc ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อตุลาคม 2024
4. ผลการทดสอบความพึงพอใจในอาสาสมัคร 52 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ โดยสถาบันวิจัย SGS North America, Inc ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อตุลาคม 2024