เมื่อฤดูหนาวมาเยือน หลายคนมักนึกถึงปัญหาผิวแห้งแตกหรือริมฝีปากลอกเป็นขุย แต่มีน้อยคนนักที่จะตระหนักว่า อากาศที่เย็นและแห้งในช่วงนี้ เป็นตัวการสำคัญที่สามารถกระตุ้นให้เกิดปัญหาบนหนังศีรษะได้อย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีภาวะ 'ผมมันง่าย' อยู่แล้ว การเปลี่ยนผ่านสู่ฤดูหนาวไม่ได้ช่วยลดความมันลง แต่กลับกลายเป็นการจุดชนวนให้เกิดปัญหา 'รังแค' ที่หนักกว่าเดิม สร้างความหงุดหงิด คันยุบยิบ และความไม่มั่นใจให้กับใครหลายคนได้
คุณอาจกำลังสงสัยว่า ในเมื่ออากาศเย็นขึ้นน่าจะทำให้ผิวแห้ง แล้วทำไมหนังศีรษะของเราถึงยังมันเยิ้มและมีรังแคได้ บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจ และทำความเข้าใจว่าอากาศเย็นส่งผลกระทบต่อสมดุลของหนังศีรษะอย่างไร และนำไปสู่การเกิดผมที่มันง่ายและรังแคได้อย่างไร เพื่อให้พร้อมรับมือและดูแลเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างเหมาะสมตลอดฤดูหนาวนี้
Table of Contents
เมื่อหนังศีรษะสูญเสียความชุ่มชื้นและแห้ง ร่างกายจะพยายามแก้ไขด้วยการสั่งการให้ต่อมไขมัน เร่งผลิตน้ำมันออกมาเพื่อชดเชยความแห้ง และพยายามสร้างเกราะความชุ่มชื้น ซึ่งการผลิตน้ำมันนี้อาจมากเกินไป ทำให้เกิดภาวะที่หนังศีรษะแห้งแต่ผมกลับมันเยิ้มอย่างเห็นได้ชัด
มีการผลัดเซลล์ผิวผิดปกติและการก่อตัวของรังแค ความแห้งกร้านยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติของหนังศีรษะ เกิดการผลัดเปลี่ยนที่ผิดปกติ เซลล์ผิวที่ตายแล้วแทนที่จะหลุดร่วงไป กลับสะสมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนและหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นเล็กๆ สีขาวที่มองเห็นได้ชัดเจน หรือ "รังแค" นั่นเอง นอกจากนี้ ความแห้งกร้านยังทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง ทำให้หนังศีรษะไวต่อการระคายเคืองและเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
เมื่อหนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากผิดปกติ น้ำมันเหล่านี้จะกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศสำหรับเชื้อรา Malassezia ทำให้เชื้อราสามารถ เจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว มากเกินไป เมื่อเชื้อรามีจำนวนมากเกินไป พวกมันจะผลิตสารบางชนิดที่ไปกระตุ้นให้หนังศีรษะเกิด ปฏิกิริยาอักเสบ และเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วกว่าปกติ ทำให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจับตัวกันเป็นก้อนและหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นขุยสีขาวที่เราเห็นเป็น "รังแค" พร้อมกับอาการคันที่สร้างความรำคาญอย่างมาก
นอกจากนี้พฤติกรรมในการดูแลหนังศีรษะและเส้นผมอาจเปลี่ยนไป เช่น การสระผมด้วยน้ำอุ่นจัด การเป่าผมด้วยลมร้อน หรือการสระผมน้อยลง ล้วนกระตุ้นให้หนังศีรษะแห้ง และกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น การสวมหมวกบ่อยๆ ก็ทำให้หนังศีรษะอับชื้น เป็นแหล่งสะสมของน้ำมัน สิ่งสกปรก และเชื้อโรคได้เช่นกัน
เดอคอส เซรั่ม 10 : สามารถใช้ได้ทั้งวันที่สระผม และ วันที่ไม่ได้สระผม ตามความสะดวก โดยแนะนำให้ใช้อย่างน้อย สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อการเห็นผลที่ดีที่สุด โดยฉีดพ่นเนื้อเซรั่ม ลงบริเวณที่มีปัญหา แล้วใช้ปลายนิ้ว นวดเบาๆ ให้เซรั่มซึมเข้าสู่หนังศีรษะ
Dercos มาพร้อมกับสูตรที่เหมาะสำหรับหนังศีรษะบอบบางแพ้ง่าย Hypoallergenic ใช้แล้วรู้สึกสบายหนังศีรษะ พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ รู้สึกสดชื่น ปราศจากสารกันเสียพาราเบน สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่ายจึงใช้ได้อย่างสบายใจ ถือว่าตอบโจทย์คนที่อยากได้ทั้งผมที่นุ่มสลวย และปราศจากรังแคไปพร้อมๆกัน
เมื่อเราเข้าใจถึงกลไกและสาเหตุที่แท้จริงเหล่านี้แล้ว การรับมือก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่ดีและเหมาะสม ซึ่งช่วยจัดการกับทั้งปัญหาผมมัน รังแค และรักษาสมดุลไมโครไบโอมบนหนังศีรษะได้ในทุกสภาพอากาศ เท่านี้คุณก็จะสามารถบอกลาปัญหาผมมันง่ายและรังแคมากวนใจได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม
คุณอาจกำลังสงสัยว่า ในเมื่ออากาศเย็นขึ้นน่าจะทำให้ผิวแห้ง แล้วทำไมหนังศีรษะของเราถึงยังมันเยิ้มและมีรังแคได้ บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจ และทำความเข้าใจว่าอากาศเย็นส่งผลกระทบต่อสมดุลของหนังศีรษะอย่างไร และนำไปสู่การเกิดผมที่มันง่ายและรังแคได้อย่างไร เพื่อให้พร้อมรับมือและดูแลเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างเหมาะสมตลอดฤดูหนาวนี้
Table of Contents
- อากาศเย็นกระตุ้น 'ผมมันง่าย' และ 'รังแค' ได้อย่างไร
- จัดการรังแคให้อยู่หมัด ในทุกสภาพอากาศ ด้วยเดอคอส แชมพู และ เซรั่ม
อากาศเย็นกระตุ้น 'ผมมันง่าย' และ 'รังแค' ได้อย่างไร
เมื่อพูดถึงฤดูหนาว เรามักจะนึกถึงผิวแห้ง แต่กับหนังศีรษะแล้วซับซ้อนกว่านั้นมาก อากาศเย็นไม่ได้ช่วยให้ปัญหา "ผมมันได้ง่าย" ดีขึ้น แต่กลายเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ทั้ง "ผมดูมันง่าย" และ "รังแค" ทวีความรุนแรงขึ้น มาทำความเข้าใจสาเหตุที่เกิดขึ้นดังนี้1.การตอบสนองของหนังศีรษะต่ออุณหภูมิที่ลดลง
เมื่ออุณหภูมิภายนอกลดต่ำลง ร่างกายจะรับรู้ว่ากำลังเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เย็นและอาจทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นและอุณหภูมิได้ง่าย เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนและรักษาเกราะป้องกันผิว ต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) ที่กระจายอยู่ทั่วหนังศีรษะ จะถูกกระตุ้นให้ ผลิตน้ำมัน (Sebum) ออกมาในปริมาณที่มากขึ้น สำหรับผู้ที่ผมมันง่าย ต่อมไขมันมีการทำงานที่ไวหรือผลิตน้ำมันเกินปกติอยู่แล้ว การกระตุ้นเพิ่มจากสภาพอากาศที่เย็นทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้นไปอีก ทำให้หนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินความจำเป็น ส่งผลให้เส้นผมดูมันเยิ้มและลีบแบนเร็วขึ้นกว่าปกติ แม้ว่าอุณหภูมิจะต่ำลงก็ตาม2.ความชื้นในอากาศและการระเหยของน้ำ
ความชื้นในอากาศที่ต่ำกว่าปกติ อากาศที่แห้งจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวหนังและหนังศีรษะของเราอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า "การสูญเสียน้ำผ่านผิวหนังชั้นนอก" ส่งผลให้หนังศีรษะของเราแห้งกร้าน แตกเป็นขุย และมีอาการคันตามมาเมื่อหนังศีรษะสูญเสียความชุ่มชื้นและแห้ง ร่างกายจะพยายามแก้ไขด้วยการสั่งการให้ต่อมไขมัน เร่งผลิตน้ำมันออกมาเพื่อชดเชยความแห้ง และพยายามสร้างเกราะความชุ่มชื้น ซึ่งการผลิตน้ำมันนี้อาจมากเกินไป ทำให้เกิดภาวะที่หนังศีรษะแห้งแต่ผมกลับมันเยิ้มอย่างเห็นได้ชัด
มีการผลัดเซลล์ผิวผิดปกติและการก่อตัวของรังแค ความแห้งกร้านยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติของหนังศีรษะ เกิดการผลัดเปลี่ยนที่ผิดปกติ เซลล์ผิวที่ตายแล้วแทนที่จะหลุดร่วงไป กลับสะสมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนและหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นเล็กๆ สีขาวที่มองเห็นได้ชัดเจน หรือ "รังแค" นั่นเอง นอกจากนี้ ความแห้งกร้านยังทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง ทำให้หนังศีรษะไวต่อการระคายเคืองและเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
3.การเพิ่มจำนวนของเชื้อรา Malassezia (สาเหตุหลักของรังแค)
เชื้อรา Malassezia เป็นจุลชีพตามธรรมชาติที่อาศัยอยู่บนหนังศีรษะของทุกคน โดยปกติแล้วจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ หากสมดุลของหนังศีรษะเป็นปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่สภาพแวดล้อมบนหนังศีรษะเปลี่ยนแปลงไป เชื้อราเหล่านี้จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นสาเหตุหลักของ "รังแค"เมื่อหนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากผิดปกติ น้ำมันเหล่านี้จะกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศสำหรับเชื้อรา Malassezia ทำให้เชื้อราสามารถ เจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว มากเกินไป เมื่อเชื้อรามีจำนวนมากเกินไป พวกมันจะผลิตสารบางชนิดที่ไปกระตุ้นให้หนังศีรษะเกิด ปฏิกิริยาอักเสบ และเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วกว่าปกติ ทำให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจับตัวกันเป็นก้อนและหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นขุยสีขาวที่เราเห็นเป็น "รังแค" พร้อมกับอาการคันที่สร้างความรำคาญอย่างมาก
นอกจากนี้พฤติกรรมในการดูแลหนังศีรษะและเส้นผมอาจเปลี่ยนไป เช่น การสระผมด้วยน้ำอุ่นจัด การเป่าผมด้วยลมร้อน หรือการสระผมน้อยลง ล้วนกระตุ้นให้หนังศีรษะแห้ง และกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น การสวมหมวกบ่อยๆ ก็ทำให้หนังศีรษะอับชื้น เป็นแหล่งสะสมของน้ำมัน สิ่งสกปรก และเชื้อโรคได้เช่นกัน
จัดการรังแคให้อยู่หมัด ในทุกสภาพอากาศ ด้วยเดอคอส แชมพู และ เซรั่ม
Vichy เวชสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีแพทย์ผิวหนังกว่า 70000 คนทั่วโลกมั่นใจแนะนำให้ใช้¹ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ DERCOS DS แชมพูขจัดรังแคอันดับ 1 ที่แพทย์ผิวหนังทั่วโลกแนะนำ² DERCOS DS ช่วยจัดการรังแค โดยเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้³ และยังช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำได้อีกด้วย3แชมพู Dercos DS
แชมพู Dercos DS ทั้งสูตร Original และสูตร 2-in-1 ผสานการทำงานของ Selenium Disulfide 1% ซึ่งเป็นสารที่มีการยอมรับในทางการแพทย์ ในการจัดการกับเชื้อ Malassezia และมีส่วนช่วยปรับสมดุลของไมโครไบโอมบนหนังศีรษะให้กลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง³ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Salicylic acid 1% ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว อีกทั้งลดขุยของรังแคที่เกาะติดอยู่บนหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะสะอาดยิ่งขึ้นหลังจากใช้ครบ 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยลดความมันบนหนังศีรษะ และทำให้ชั้นปราการผิวแข็งแรงขึ้น อย่างวิตามิน อี และ เซราไมด์ จึงช่วยทำให้ลดโอกาสเกิดขุยรังแคได้ดียิ่งขึ้น
Dercos Serum 10
Dercos Serum 10 เซรั่มที่ช่วยจัดการกับปัญหารังแคได้มากถึง 10 ประการ ตั้งแต่ลดขุย ลดความคัน ลดความมัน ช่วยให้หนังศีรษะไม่แห้งตึง ปราการผิวแข็งแรง และ ลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากการที่หนังศีรษะมัน ด้วยส่วนผสม อย่างเช่น Piroctone Olamine เข้าจัดการกับเชื้อรา และลดความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ ผสานกับการทำงานของ Madecassocide ที่ช่วยปลอบประโลม เหมาะกับหนังศีรษะที่ระคายเคืองหรือเป็นผื่นง่าย อีกทั้งยังมี วิตามินซี และ ไฮยาลูรอนวิธีการใช้
สำหรับแชมพู Dercos DS ทั้ง 2 สูตร แนะนำให้สระผมครั้งแรกเพื่อล้างความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกต่างๆ ออกก่อน จากนั้นสำหรับการสระรอบที่ 2 ให้ขยี้แชมพู Dercos DS จนเกิดฟองและฟอกทิ้งไว้ 2 นาทีเพื่อให้แชมพูทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และ แนะนำให้ใช้แชมพู Dercos DS สระอย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ พบว่าสามารถป้องกันการกลับเป็นซ้ำของรังแคได้ยาวนานถึง 6 สัปดาห์³เดอคอส เซรั่ม 10 : สามารถใช้ได้ทั้งวันที่สระผม และ วันที่ไม่ได้สระผม ตามความสะดวก โดยแนะนำให้ใช้อย่างน้อย สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อการเห็นผลที่ดีที่สุด โดยฉีดพ่นเนื้อเซรั่ม ลงบริเวณที่มีปัญหา แล้วใช้ปลายนิ้ว นวดเบาๆ ให้เซรั่มซึมเข้าสู่หนังศีรษะ
Dercos มาพร้อมกับสูตรที่เหมาะสำหรับหนังศีรษะบอบบางแพ้ง่าย Hypoallergenic ใช้แล้วรู้สึกสบายหนังศีรษะ พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ รู้สึกสดชื่น ปราศจากสารกันเสียพาราเบน สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่ายจึงใช้ได้อย่างสบายใจ ถือว่าตอบโจทย์คนที่อยากได้ทั้งผมที่นุ่มสลวย และปราศจากรังแคไปพร้อมๆกัน
เมื่อเราเข้าใจถึงกลไกและสาเหตุที่แท้จริงเหล่านี้แล้ว การรับมือก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่ดีและเหมาะสม ซึ่งช่วยจัดการกับทั้งปัญหาผมมัน รังแค และรักษาสมดุลไมโครไบโอมบนหนังศีรษะได้ในทุกสภาพอากาศ เท่านี้คุณก็จะสามารถบอกลาปัญหาผมมันง่ายและรังแคมากวนใจได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม
1. ผลสำรวจในกลุ่มผลิตภัณฑ์เวชสำอาง โดย AplusA และพันธมิตรร่วม ระหว่างเดือนมกราคม 2023 ถึง กรกฏาคม 2023 มีแพทย์ผิวหนังจาก 30 ประเทศเข้าร่วมโดยสามารถอ้างอิงถึงมากกว่า 80% ของ GDA ทั่วโลก
2. ผลสำรวจโดย APLUSA และผู้ทำการสำรวจร่วมระหว่างเดือนมิถุนายน 2023 ถึงกันยายน 2023 ซึ่งเป็นผลสํารวจที่มีแพทย์ผิวหนัง ทั้งหมด 29 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 80% ของ GDP ทั่วโลก
3. Cécile Clavaud, Céline Michelin, Sayeh Pourhamidi, Sarah Ziane, Charles El Rawadi, Benoît Muller. Selenium disulfide: a key ingredient to rebalance scalp microbiome and sebum quality in the management of dandruff.