รังแคเป็นปัญหาหนังศีรษะที่พบได้บ่อย สร้างความรำคาญและทำให้เสียความมั่นใจ การเลือกใช้แชมพูขจัดรังแคที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการกับปัญหานี้ แต่แชมพูในท้องตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็มีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแชมพูแบบไหนที่เหมาะกับเรา? บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกส่วนผสมหลักของแชมพูที่ช่วยขจัดรังแค และส่วนผสมตัวไหนบ้างที่จำเป็นต้องมี เพื่อช่วยให้คุณเลือกแชมพูที่ตอบโจทย์ปัญหาหนังศีรษะของคุณได้อย่างตรงจุด
รังแคเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เชื้อรา ความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ หรือแม้แต่ความเครียด ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดรังแคจึงต้องพิจารณาถึงสาเหตุของรังแคและสภาพหนังศีรษะของคุณด้วย ส่วนผสมบางชนิดอาจเหมาะกับรังแคชนิดแห้ง ในขณะที่บางชนิดอาจเหมาะกับรังแคชนิดมัน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นแชมพู ครีมนวดผม หรือ เซรั่ม/โทนิค ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ปัญหาหนังศีรษะแย่ลงได้
Table of Contents
- รังแคคืออะไร และมีสาเหตุมาจากอะไร
- ส่วนผสมใด ที่จัดการรังแคได้อย่างเห็นผล
- จัดการรังแค ด้วยเดอคอส แชมพู และ เซรั่ม
รังแคคืออะไร และมีสาเหตุมาจากอะไร
รังแค คือ การอักเสบของหนังศีรษะ จนกระทั่งชั้นปราการผิวของหนังศีรษะ ถูกทำลายและหลุดลอกเป็นขุย โดย 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดรังแคมีดังนี้
- การไม่สมดุลของจุลินทรีย์บนหนังศีรษะ หรือที่เราเรียกว่าสมดุลของ “ไมโครไบโอม” นั่นเอง โดยพบว่า เชื้อยีสต์ที่ชื่อว่า Malassezia restricta เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดรังแค เพราะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นกว่า 10 เท่าในคนที่เป็นรังแค1 และทำให้สมดุลของจุลินทรีย์ชนิดอื่นที่เป็นตัวดี มีปริมาณลดลงด้วย เช่น Cutibacterium acnes
- การผลิตน้ำมันที่มากผิดปกติของต่อมไขมัน ซึ่งปกติ sebum หรือไขมันตามธรรมชาติจะเคลือบคลุมผิวและให้ความชุ่มชื้นกับผิว แต่ถ้ามีมากเกินปกติจะทำให้เชื้อยีสต์ Malassezia ในข้อ 1 เพิ่มจำนวนได้มากยิ่งขึ้นและนำเอาไขมันเหล่านี้ไปเป็นอาหาร สุดท้ายมีการขับของเสียออกจากตัวเชื้อรา กลายเป็นสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบขึ้น
- ชั้นปราการผิวถูกทำลายและเสียสมดุล โดยที่สารก่อการอักเสบในข้อ 2 ทำให้ชั้นปราการผิวถูกทำลาย
ส่วนผสมใด ที่จัดการรังแคได้อย่างเห็นผล?
เราจะมาทำความรู้จักกับส่วนผสมหลัก ๆ ที่มักพบในผลิตภัณฑ์ขจัดรังแค พร้อมอธิบายคุณสมบัติและประสิทธิภาพของสารแต่ละชนิด เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง เริ่มเลย
สารต้านเชื้อรา (Antifungal Agents)
รังแคส่วนใหญ่มักเกิดจากเชื้อรา Malassezia ซึ่งเป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่บนหนังศีรษะตามปกติ แต่หากมีการเจริญเติบโตมากเกินไปก็จะทำให้เกิดรังแค สารต้านเชื้อราจึงเป็นส่วนผสมสำคัญที่ต้องมีในแชมพูขจัดรังแค ตัวอย่างสารต้านเชื้อราที่นิยมใช้ ได้แก่
- Ketoconazole :มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Zinc Pyrithione :ช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อราและลดการอักเสบของหนังศีรษะ
- Selenium Disulfide :ช่วยลดการหลุดลอกของเซลล์ผิว และควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อรา พร้อมปรับสมดุลไมโครไบโอมบนหนังศีรษะได้ด้วย
- Piroctone Olamine : ช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อราและลดการอักเสบของหนังศีรษะ และยังมีคุณสมบัติในการบาลานซ์น้ำมันบนหนังศีรษะได้อีกด้วย
- Climbazole : มีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อราและลดอาการคัน
สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว (Keratolytic Agents)
สารกลุ่มนี้ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากหนังศีรษะ ลดการสะสมของรังแค และทำให้หนังศีรษะสะอาด ตัวอย่างสารที่นิยมใช้ ได้แก่
- Salicylic Acid :ช่วยละลายเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกได้ง่าย
- Coal Tar :ช่วยลดการอักเสบ ลดการหลุดลอกของเซลล์ผิว และลดอาการคัน
สารควบคุมความมัน (Oil-Control Agents)
สำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะมันร่วมกับรังแค ควรเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของสารควบคุมความมัน เพื่อช่วยลดความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ ซึ่งเป็นอาหารของเชื้อรา ตัวอย่างสารที่นิยมใช้เช่น Piroctone Olamine
สารบำรุงหนังศีรษะ (Soothing Agents)
นอกจากการขจัดรังแคแล้ว การบำรุงหนังศีรษะก็เป็นสิ่งสำคัญ แชมพูสำหรับขจัดรังแคบางชนิดมีส่วนผสมของสารบำรุง เช่น Aloe Vera, Allantoin เพื่อช่วยลดการระคายเคือง บรรเทาอาการคัน และบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง

จัดการรังแค ด้วยเดอคอส แชมพู และ เซรั่ม
Vichy เวชสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีแพทย์ผิวหนังกว่า 70000 คนทั่วโลกมั่นใจแนะนำให้ใช้1 รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ DERCOS DS แชมพูขจัดรังแคอันดับ 1 ที่แพทย์ผิวหนังทั่วโลกแนะนำ2 DERCOS DS ช่วยจัดการรังแค โดยเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้4 และยังช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำได้อีกด้วย3
แชมพู Dercos DS ผสานการทำงานของ Selenium Disulfide 1% ซึ่งเป็นสารที่มีการยอมรับในทางการแพทย์ ในการจัดการกับเชื้อ Malassezia และมีส่วนช่วยปรับสมดุลของไมโครไบโอมบนหนังศีรษะให้กลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง3 นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Salicylic acid 1% ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว อีกทั้งลดขุยของรังแคที่เกาะติดอยู่บนหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะสะอาดยิ่งขึ้นหลังจากใช้ครบ 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยลดความมันบนหนังศีรษะ และทำให้ชั้นปราการผิวแข็งแรงขึ้น อย่างวิตามิน อี และ เซราไมด์ จึงช่วยทำให้ลดโอกาสเกิดขุยรังแคได้ดียิ่งขึ้น
Dercos Serum 10 เซรั่มที่ช่วยจัดการกับปัญหารังแคได้มากถึง 10 ประการ ตั้งแต่ลดขุย ลดความคัน ลดความมัน ช่วยให้หนังศีรษะไม่แห้งตึง ปราการผิวแข็งแรง และ ลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากการที่หนังศีรษะมัน ด้วยส่วนผสม อย่างเช่น Piroctone Olamine เข้าจัดการกับเชื้อรา และลดความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ ผสานกับการทำงานของ Madecassocide ที่ช่วยปลอบประโลม เหมาะกับหนังศีรษะที่ระคายเคืองหรือเป็นผื่นง่าย อีกทั้ง วิตามินซี และ ไฮยาลูรอน

วิธีการใช้
สำหรับแชมพู Dercos DS แนะนำสระผม แนะนำให้สระผมครั้งแรกเพื่อล้างความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกต่างๆ ออกไปก่อน ส่วนการสระรอบที่ 2 ให้ขยี้แชมพู Dercos DS จนเกิดฟองและฟอกทิ้งไว้ 2 นาทีเพื่อให้แชมพูทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และ เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ แนะนำให้ใช้แชมพู Dercos DS สระอย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง พบว่าสามารถป้องกันการกลับเป็นซ้ำของรังแคได้ยาวนานถึง 6 สัปดาห์3
- เดอคอส เซรั่ม 10 : สามารถใช้ได้ทั้งวันที่สระผม และ วันที่ไม่ได้สระผม ตามความสะดวก โดยแนะนำให้ใช้อย่างน้อย สัปดาห์ละ 3 ครั้งเพื่อการเห็นผลที่ดีที่สุด โดยฉีดพ่นเนื้อเซรั่ม ลงบริเวณที่มีปัญหา แล้วใช้ปลายนิ้ว นวดเบาๆ ให้เซรั่มซึมเข้าสู่หนังศีรษะ
Dercos มาพร้อมกับสูตรที่เหมาะสำหรับหนังศีรษะบอบบางแพ้ง่าย Hypoallergenic ใช้แล้วรู้สึกสบายหนังศีรษะ พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ รู้สึกสดชื่น ปราศจากสารกันเสียพาราเบน คนที่ผิวแพ้ง่ายจึงใช้ได้อย่างสบายใจ เรียกได้ว่าตอบโจทย์คนที่อยากได้ทั้งผมที่นุ่มสลวย และปราศจากรังแคไปพร้อมๆกันเลยทีเดียว
สรุป
การดูแลสุขภาพหนังศีรษะให้แข็งแรงและปราศจากรังแคเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เช่น การเลือกใช้แชมพูที่เหมาะสม การสระผมอย่างถูกวิธี และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ล้วนส่งผลต่อสุขภาพหนังศีรษะของคุณทั้งสิ้น หากคุณลองปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้แล้วแต่ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับรังแคอยู่ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกร เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพหนังศีรษะของคุณ
- ผลสำรวจในกลุ่มผลิตภัณฑ์เวชสำอาง โดย AplusA และพันธมิตรร่วม ระหว่างเดือนมกราคม 2023 ถึง กรกฎาคม 2023 มีแพทย์ผิวหนังจาก 30 ประเทศเข้าร่วมโดยสามารถอ้างอิงถึงมากกว่า 80% ของ GDA ทั่วโลก
- ผลสำรวจโดย APLUSA และผู้ทำการสำรวจร่วมระหว่างเดือนมิถุนายน 2023 ถึงกันยายน 2023 ซึ่งเป็นผลสํารวจที่มีแพทย์ผิวหนัง ทั้งหมด 29 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 80% ของ GDP ทั่วโลก
- Cécile Clavaud, Céline Michelin, Sayeh Pourhamidi, Sarah Ziane, Charles El Rawadi, Benoît Muller. Selenium disulfide: a key ingredient to rebalance scalp microbiome and sebum quality in the management of dandruff.