ปัจจัยทำร้ายผิวที่ทำให้หน้าไม่ใสคืออะไร
ปัจจัยทำร้ายผิว หรือที่เรียกว่า Exposome คือตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพผิวหน้าของเรา Exposome สามารถทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำและดูไม่มีชีวิตชีวาได้ ถ้าเราทำความรู้จักกับปัจจัยทำร้ายผิวเหล่านี้แล้ว ก็จะได้ป้องกันหรือหลีกเลี่ยงได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างของ Exposome หรือปัจจัยทำร้ายผิวที่เราพบกันได้บ่อย ๆ ได้แก่
รังสี UV และมลภาวะต่าง ๆ
รังสี UV และมลภาวะต่าง ๆ เช่น ควันจากการเผาไหม้ สารเคมีในอากาศ ฝุ่น¹ PM2.5 ซึ่งมีมากยิ่งขึ้นในหลายๆพื้นที่ และบางช่วง อย่างเช่น ช่วงที่อากาศแห้ง ฝุ่น PM2.5 ก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งมีงานวิจัยพิสูจน์แล้วว่า ปัจจัยนี้ทำให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระขึ้นที่ผิวและทำให้ผิวหมองคล้ำได้
ความเครียดสะสม
ความเครียดสะสม² จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระ จำนวนมากในผิว รวมไปถึงการเสื่อมสภาพของเซลล์ที่มาจากฮอร์โมนแห่งความเครียดอย่างเช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล ที่ส่งผลให้เซลล์ผิวถูกทำลาย เสื่อมสภาพ ผิวจึงแลดูหมองคล้ำ และไม่สดใส
นอนดึก นอนน้อย
นอนดึก นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ² ก็เช่นเดียวกันที่ทำให้การฟื้นฟูสภาพผิวในเวลากลางคืน เกินได้น้อยลง หากเรานอนไม่พอ
อายุที่เพิ่มมากขึ้น
อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเกิดได้ช้าลง จากปกติที่รอบในการผลัดเซลล์ผิวจะอยู่ที่ประมาณ 28 วัน แต่เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น การสร้างเซลล์ใหม่เพื่อมาแทนที่เซลล์เก่าก็จะทำได้แย่ลง และการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปก็ทำได้ช้าลงเช่นเดียวกัน จึงทำให้มีซากเซลล์ผิวเก่าๆ ที่ตายแล้วและเสื่อมสภาพมาพอกตัวหนาอยู่บนชั้นผิว ผิวจึงดูหมองคล้ำไม่สดใส
ทุกคนคงพอจะมองเห็นแล้วว่า ปัจจัยทำร้ายผิวเหล่านี้ บางอย่างก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่บางอย่างก็หลีกเลี่ยงได้และป้องกันได้
เคล็ด(ไม่)ลับหน้าใส สู้ภัยปัจจัยทำร้ายผิว มีอะไรบ้าง?
อยากผิวสวยหน้าใสไม่ใช่เรื่องยากเลยในเมื่อเรารู้แล้วว่า ต้นเหตุก็คือปัจจัยทำร้ายผิว Exposome ดังนั้นการหลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายผิวต่าง ๆ ย่อมเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวหมองคล้ำได้ดีที่สุด เคล็ด(ไม่)ลับหน้าใส สไตล์สาว Parisian ที่ดูแลผิวแบบ Holistic care จากวิชี่ จึงมีดังนี้
การดื่มน้ำเพียงพอ
การดื่มน้ำเพียงพอ ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ และดูกระจ่างใส ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยเสริมวิตามินให้กับผิว และช่วย detox ขจัดของเสียออกจากผิวได้ด้วย
ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพผิวที่ดี
ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพผิวที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มการไหลเวียนที่ชั้นผิว ช่วยในการขับของเสียต่างๆ รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และ การบริหารจัดการความเครียด
การใช้ครีมกันแดด
การครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดที่อาจทำให้ผิวถูกทำร้าย หมองคล้ำ และแก่ก่อนวัย คุณควรเลือกครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันทั้ง UVA และ UVB และถ้าจะให้ดีควรมีส่วนผสมที่ช่วยเรื่องของการลดจุดด่างดำ และต่อต้านริ้วรอยไปพร้อมๆกันด้วย
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เพราะอนุมูลอิสระนี่แหละคือตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิว
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิว เพราะเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำไม่สดใส แต่ก็ต้องเลือกสูตรที่อ่อนโยน ไม่ผลัดผิวมากเกินไปด้วย
ประโยชน์ของวิตามินซีที่มีต่อผิว
หลาย ๆ คนทราบอยู่แล้วว่า วิตามินซีบริสุทธิ์ช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้ แต่นอกจากนี้ วิตามินซีบริสุทธิ์ ยังมีประโยชน์ต่อผิวอีกมากมาย อาทิ
- ต่อต้านอนุมูลอิสระ3 ซึ่งถือว่าเป็นสารพิษทำร้ายเซลล์ผิว
- ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิว3
- ต่อต้านการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ในการสร้างเม็ดสีผิวเมลานิน⁴
- เมื่อใช้ในความเข้มข้นที่เหมาะสม อย่างเช่น เซรั่มวิตามินซีบริสุทธิ์ 8-20% สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ด้วย⁴
แนะนำเซรั่มวิตามินซี LIFTACTIV VITAMIN C BRIGHTENING SKIN CORRECTOR
ขอแนะนำ LIFTACTIV VITAMIN C BRIGHTENING SKIN CORRECTOR ที่ผสานการทำงานของวิตามินซี บริสุทธิ์ 15% และ สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศสเข้าด้วยกันเพื่อการดูแลผิวสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ
ด้วยส่วนผสมของ Pure Ascorbic Acid ที่มีความเข้มข้นสูงถึง 15% ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วในวงการแพทย์ว่าวิตามินซีบริสุทธิ์มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสารพิษต่อเซลล์ อีกทั้งวิตามินซีบริสุทธิ์มีส่วนช่วยในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เป็นจุดกำเนิดของเม็ดสีเมลานินอีกด้วย จึงช่วยเผยผิวกระจ่างใสแลดูมีออร่า
- มีสารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส⁵ ที่มีคุณสมบัติเป็นซุปเปอร์แอนตี้ออกซิแดนท์ ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดจุดด่างดำที่ชั้นผิว
- วิตามิน อี บริสุทธิ์ ที่ช่วยเสริมการทำงานในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ผ่านการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าเมื่อใช้ต่อเนื่อง 10 วัน สีผิวกระจ่างใสขึ้น 83%⁶ และ จุดด่างดำแลดูลดเลือนลง 63%⁶
- เนื้อสัมผัสแบบ Aqueous solution ที่บางเบาสบายผิว และ ควบคุมค่า pH อยู่ที่ 4.0 จึงช่วยเรื่องการดูดซึมของวิตามินซี เข้าสู่ผิวได้เป็นอย่างดี
- Active pH ในเซรั่มช่วยให้วิตามินซีไม่สลายตัวง่ายเหมือนวิตามินซีบริสุทธิ์ทั่ว ๆ ไป