Retinol ใช้อย่างไรให้ไม่ระคายเคืองและเห็นผล?

Retinol

Retinol ได้กลายเป็นส่วนผสมหนึ่งในกิจวัตรการดูแลผิวของใครหลายคน และถูกยกให้เป็นหนึ่งในสุดยอดส่วนผสมแห่งยุค ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นในการฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ทำให้เป็นตัวช่วยอันทรงพลังที่สามารถเนรมิตผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีอีกครั้ง การใช้ก็มาพร้อมกับข้อควรระวังและความจำเป็นในการทำความเข้าใจ หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องการระคายเคือง ผิวแดงลอก ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้มักเกิดจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว หรือขาดความรู้ในการรับมือกับปฏิกิริยาของผิวในระยะเริ่มต้น

บทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับเรตินอลอย่างลึกซึ้ง พร้อมเผยเคล็ดลับและขั้นตอนการใช้งานที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถดึงประสิทธิภาพสูงสุดจากส่วนผสมนี้ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล และที่สำคัญที่สุดคือ ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอย่างแท้จริง

Table of Contents



ทำความรู้จักกับ Retinol

Retinol คืออนุพันธ์ของวิตามินเอ (Vitamin A) ชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) วิตามินเอเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกาย รวมถึงการทำงานของผิวหนังด้วย โดย Retinol นั้นเมื่อถูกทาลงบนผิวหนัง จะถูกเปลี่ยนรูปเป็นกรดเรติโนอิก (Retinoic Acid) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์ได้โดยตรงต่อเซลล์ผิวหนัง

ประโยชน์ของ Retinol ที่ควรรู้

Retinol ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน ประโยชน์หลัก ๆ ที่ทำให้เป็นที่ต้องการอย่างมากมีดังนี้

1.ลดเลือนสัญญาณแห่งวัย

มีคุณสมบัติเด่นในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึง เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ และริ้วรอยลึกจึงดูจางลง ผิวจะรู้สึกกระชับและเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

2.ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

ช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไป และเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสกว่าออกมา ทำให้จุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยคล้ำต่าง ๆ ดูจางลง สีผิวโดยรวมสม่ำเสมอและดูสว่างขึ้น

3.รักษาสิวและกระชับรูขุมขน

ด้วยคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิว จึงช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบและควบคุมความมันส่วนเกิน ทำให้ปัญหาสิวลดลง และรูขุมขนก็ดูเล็กลง กระชับขึ้น

4.ปรับปรุงเนื้อสัมผัสของผิว

การที่เซลล์ผิวมีการผลัดเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอและมีการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวโดยรวมมีความเรียบเนียน นุ่มนวล และดูมีสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน

ประโยชน์ของ Retinol


สิ่งที่ควรรู้ก่อนการใช้ Retinol

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง การทำความเข้าใจสภาพผิวของตัวเอง การเตรียมผิวให้พร้อม และการรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหลีกเลี่ยง จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นใช้งาน

1.สภาพผิว พื้นฐานที่ต้องใส่ใจ



ผิวแห้งและผิวบอบบาง (Dry & Sensitive Skin)

ผิวแห้ง และผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย (Dry & Sensitive Skin): ผิวประเภทนี้มักมีเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ที่อ่อนแอ ทำให้มีแนวโน้มที่จะระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ หากคุณมีผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือผิวแห้งมาก ควรเริ่มต้นด้วยความเข้มข้นต่ำมาก ๆ เช่น 0.1%

ผิวมันและผิวผสม (Oily & Combination Skin)

แต่ถ้าคุณมีผิวมันหรือผิวผสม คุณมีแนวโน้มที่ใช้ได้แบบสบาย ๆ แต่ก็ต้องอย่าลืมเติมมอยส์เจอไรเซอร์แบบออยฟรี ตามหลังการใช้ Retinol ด้วย

2.ปัญหาผิวที่คุณกำลังมีอยู่

หากคุณมีปัญหาผิวเหล่านี้ Retinol ช่วยคุณได้เลย

  • ปัญหาสิวและรอยสิว
  • ปัญหาริ้วรอยตื้นและริ้วรอยลึก
  • จุดด่างดำ กระ ฝ้าแดด สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ผิวไม่เรียบเนียน


เนื่องจากการทำงานของ Retinol จะช่วยทั้งเรื่องการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำออกไป อีกทั้งรบกวนการทำงานของเซลล์ที่สร้างเม็ดสีผิว จึงสามารถจัดการกับปัญหาผิวข้างต้นได้เป็นอย่างดี

3.สภาวะของผิวบางชนิดต้องระวังการใช้ Retinol

หากคุณมีปัญหาโรคผิวหนังอักเสบ, ผื่นโรซาเซีย, โรคสะเก็ดเงิน หรือเป็นผู้ที่มีผิว sensitive ต่อแสงแดดมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว อาจจะต้องใช้ที่ความเข้มข้นต่ำ ๆ และใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ หรือถ้าหากคุณกำลังตั้งครรภ์ เพื่อความสบายใจของคุณแม่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่คุณแม่ฝากครรภ์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol

ใช้ Retinol ยังไงให้หน้าไม่พัง? เปิดเคล็ดลับผิวสวยด้วย Retinol จากวิชี่

Vichy เวชสำอางจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีแพทย์ผิวหนังกว่า 70,000 คนทั่วโลกมั่นใจแนะนำให้ใช้¹ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ Liftactiv Retinol Serum ที่ผสานการทำงานของวิตามินเอบริสุทธิ์ หรือ Retinol 0.2% และ Peptide เข้าด้วยกันเพื่อการดูแลปัญหาริ้วรอย และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ 1% โพรไบโอติกแฟรกชั่น เอกสิทธิ์เฉพาะของวิชี่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยให้ผิวแข็งแรง นอกจากนี้เรตินอลของวิชี่ มีความคงตัวมากกว่า Retinol ทั่วไป เพราะใช้เทคโนโลยี Retinol การ์ด (Retinol Guard) ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะเช่นเดียวกัน จึงทำให้ Retinol สามารถถูกนำส่งไปถึงชั้นผิวได้มากกว่านั่นเอง

Liftactiv Retinol Serum


เคล็ดลับการใช้ Retinol ให้ปลอดภัยและเห็นผล



  • เริ่มต้นด้วยความระมัดระวัง: เริ่มต้นด้วย Retinol ที่มีความเข้มข้นต่ำ และใช้ในปริมาณน้อย ๆ
  • ให้เวลาผิวปรับตัว: ค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นและความถี่ในการใช้ เมื่อผิวเริ่มปรับตัวได้ หรือผิวลอกน้อยลงแล้วก็สามารถเพิ่มความถี่ในการใช้ได้ หรืออาจจะใช้เทคนิคที่แพทย์ผิวหนังแนะนำอย่าง Sandwich technic
  • ให้ความชุ่มชื้น: ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เช่น ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อลดโอกาสในการระคายเคือง
  • สังเกตอาการผิดปกติ: หากมีอาการผิดปกติ เช่น ผิวแดง แสบร้อน คัน หรือลอก ควรหยุดใช้ทันที


เทคนิคการใช้ Retinol


ใช้ในเวลากลางคืนเพื่อลดความไวต่อแสง

โดยปกติแล้วแพทย์ผิวหนังมักจะแนะนำให้ใช้ Retinol ในเวลากลางคืน เพื่อลดโอกาสที่จะเกิด Photo-sensitivity (ผิวไวต่อแสง) ในเวลากลางวัน สำหรับเทคนิคการใช้ Retinol จึงมีหลากหลายรูปแบบ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำตามได้

Sandwich Technique (Pre-serum → Retinol → Night cream)

Sandwich Technic คือหลังจากล้างหน้าในตอนกลางคืนแล้ว ลงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเตรียมผิว (ที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนก่อน) อย่างเช่น M89 Booster ซึ่งเป็น pre-serum ที่มีส่วนผสมของน้ำแร่ภูเขาไฟวิชี่ 89% ที่จะช่วยเตรียมผิวให้พร้อมที่จะรับการบำรุงจากนั้นลง Retinol เซรั่ม แล้วปิดท้ายด้วย ไนท์ครีม อีกครั้ง จะสังเกตุได้เลยว่า Retinol จะอยู่เลเยอร์ตรงกลาง จึงทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองลงได้ ซึ่งเทคนิคนี้ สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกคืน

การดูแลเสริมตอนกลางวัน (Vitamin C + Sunscreen)

สำหรับตอนกลางวันแนะนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม วิตามิน ซี บริสุทธิ์ อย่างเช่น วิชี่ ลิฟแอคทีฟ วิตามินซี เซรั่ม ด้วยส่วนผสมของ Pure Ascorbic Acid ที่มีความเข้มข้น สูงถึง 16% ที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในตอนกลางวัน แล้วก็ปิดท้ายด้วยกันแดด SPF50 PA++++ เท่านี้ก็จะทำให้การใช้ Retinol มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

สรุป

สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเรตินอลเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพสูง ในการจัดการกับปัญหาผิวหลากหลายประการ Retinol ไม่ใช่ส่วนผสมที่จะทำร้ายผิวของคุณ หากคุณใช้มันด้วยความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง มันจะกลายเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมในการดูแลผิวของเรานำพาไปสู่ผิวที่เรียบเนียน กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์อย่างที่ใจปรารถนา ขอให้คุณสนุกกับการเดินทางสู่ผิวสวยสุขภาพดีไปพร้อมกับ Retinol

1. ผลสำรวจโดย AplusA และผู้ทำการสำรวจร่วมโดยอ้างอิงจากตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ เวชสาอาง ระหว่าง มกราคม 2023 ถึง กรกฎาคม 2023 ซึ่งเป็นผลสํารวจที่มีแพทย์ผิวหนัง ทั้งหมด 30 ประเทศเข้าร่วม โดยสามารถอ้างอิงถึงมากกว่า 80% ของ GDA ทั่วโลก