ภาวะหลังวัยหมดประจำเดือนคืออะไร? อาการ สุขภาพ ผิวพรรณ และเคล็ดลับ

หลังจากวัยหมดประจําเดือน เมื่อคุณไม่ได้มีประจําเดือนเป็นเวลา 12 เดือน รังไข่จะหยุดปล่อยไข่หรือไม่ผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนอีกต่อไป โดยเฉลี่ยแล้ว จะเกิดขึ้นเมื่ออายุประมาณ 51 ปี(1) และจากนั้นเป็นต้นไป คุณจะเข้าสู่ภาวะหลังวัยหมดประจำเดือน เมื่อความเสถียรทางฮอร์โมนนิ่งขึ้น จะทำให้อาการบางอย่างที่คุณอาจเคยพบในช่วงวัยหมดประจําเดือนหายไป ทั้งอาการร้อนวูบวาบและอารมณ์แปรปรวน คุณอาจรู้สึกถึงความสมดุลในร่างกายเพิ่มมากขึ้นด้วย ผู้หญิงในภาวะหลังวัยหมดประจำเดือนยังมีความเสี่ยงสูงต่อโรคกระดูกพรุนและภาวะสุขภาพอื่นๆ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรในร่างกายย่อมหมายถึงการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ทั้งนี้ หากมีการดูแลตัวเองให้แข็งแรง มีสุขภาพดี และได้รับการบํารุงอย่างดีอยู่เสมอ จะช่วยเพิ่มระดับพลังงานให้คุณได้เมื่อเริ่มเข้าสู่ภาวะนี้

ความเสถียรทางฮอร์โมนมากขึ้นหลังวัยหมดประจําเดือน

ภาวะหลังวัยหมดประจำเดือน ระดับฮอร์โมนจะคงที่ซึ่งหมายความว่า อาการทั่วไปที่คุณอาจพบเนื่องจากการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงจะหมดไป เช่น ความเหนื่อยล้า เหงื่อออกตอนกลางคืน ร้อนวูบวาบ อารมณ์แปรปรวนและผิวแห้ง เมื่อร่างกายปรับตัวเข้ากับความสมดุลใหม่นี้ได้ คุณอาจพบว่าคุณรู้สึกมีพลังมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับหลายปีก่อน ผู้หญิงหลายคนยังสังเกตเห็นอาการปวดเมื่อย ปัญหาการนอนหลับ ความวิตกกังวลและความผันผวนของน้ำหนักที่ลดน้อยลงเมื่อผ่านพ้นวัยหมดประจําเดือน

โรคกระดูกพรุนคือ โรคที่ความหนาแน่นของกระดูกลดน้อยลงจนทำให้กระดูกเปราะบาง ร้าว และมีโอกาสแตกหักได้ง่าย ในสตรีวัยหมดประจำเดือนนั้น โรคนี้เกิดจากการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพกระดูกให้ดี การรับประทานอาหารที่หลากหลาย รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนมที่อุดมด้วยแคลเซียมและผักใบเขียวสำหรับบำรุงกระดูก ปลาที่มีวิตามินดี ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินดีได้ จะช่วยปกป้องร่างกายจากโรคนี้ได้ การตรวจร่างกายมีความสำคัญยิ่ง ทั้งนี้แพทย์ของคุณอาจจ่ายอาหารเสริมแคลเซียมและวิตามินดี รวมถึงแนะนำการเพิ่มการออกกำลังกายที่มีการลงน้ำหนักในการออกกำลังกายของคุณ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูก และกล้ามเนื้อได้

การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนยังส่งผลต่อหัวใจ และผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนหลายคนประสบกับอาการใจสั่น หรือภาวะหัวใจเต้นเร็ว ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงเกิดหัวใจวายได้ การไปพบแพทย์เป็นประจำมีความสำคัญอย่างมาก และหากคุณมีพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพก่อนหน้านี้เช่น การสูบบุหรี่ หรือทานอาหารที่มีไขมันสูง นี่ยังไม่สายเกินไปที่คุณจะเปลี่ยนวิถีชีวิตผ่านการรับประทานอาหารที่หลากหลาย และดีต่อสุขภาพ พร้อมกับออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 150 นาที โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง นั้นเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมที่สุด (2) ซึ่งจะช่วยให้หัวใจของคุณอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ และลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวใจในภายหลัง

ผิวหลังวัยหมดประจำเดือน

การเปลี่ยนแปลงของผิวก่อนช่วงวัยหมดประจำเดือนจะมีผิวแห้งกร้านขึ้น ทั้งยังสูญเสียความหนาแน่น ความยืดหยุ่น และเกิดความหย่อนคล้อย แต่ก็มีวิธีมากมายที่จะรับมือกับปัญหาเหล่านี้ การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และการป้องกันแสงแดดอาจช่วยชะลอสัญญาณแห่งวัยได้ แต่ในช่วงวัยหลังหมดประจำเดือนนั้น การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างรอบคอบเป็นกุญแจสำคัญสู่การมีผิวที่สวยงาม และมีสุขภาพดีในขณะที่คุณมีอายุเพิ่มขึ้น

โดยให้คำนึงถึงการบำรุงเป็นหลัก เพราะผิวหลังวัยหมดประจำเดือนอาจมีไขมันที่สำคัญต่อความแข็งแรงของผิวน้อยกว่าผิวก่อนวัยหมดประจำเดือนถึง 57% เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงสูตรเข้มข้นขึ้นเพื่อการบำรุงผิวทั้งในช่วงเช้าและเย็น

การใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยไว้ในขั้นตอนการดูแลผิว เป็นตัวช่วยที่ดีที่จะช่วยให้ผิวรู้สึกแข็งแรงและกระชับมากขึ้น โปรไซเลน (Pro-Xylane) สามารถช่วยเติมเต็มความกระชับและลดเลือนริ้วรอยของผิวได้

ลองเพิ่มออยล์บำรุงผิวใน skincare routine เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ก่อนทาครีมสำหรับกลางวันหรือกลางคืนด้วยได้นะ พร้อมยกระดับ skincare routine โดยการนวดเพื่อช่วยกระชับผิว และช่วยให้สกินแคร์ซึมซาบและทำงานได้ดียิ่งขึ้น

การปรับตัวเข้ากับช่วงใหม่ของชีวิต

ช่วงวัยหมดประจำเดือนเป็นช่วงเวลาแห่งการครุ่นคิดและการปรับตัว เนื่องจากร่างกายของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ในขณะที่ร่ายกายและอารมณ์ของคุณสงบลง การเลือกใช้ชีวิตอย่างรอบคอบและพิถีพิถันจะช่วยให้คุณเข้าสู่ช่วงชีวิตใหม่นี้ได้อย่างดี พร้อมกับมีสุขภาพที่ดี และมีความสุขในปีต่อๆไปที่กำลังจะมาถึง

แหล่งที่มา:
1. Vichy, Ménopause, mode d’emploi, p11
2. http://www.heart.org/en/health-topics/consumer